นารีผล (Na Ree Pol) เป็นพืชชนิดหนึ่ง มีผลแตกกิ่งก้านออกมาเป็นลักษณะโค้งเว้า เหมือนกับผู้หญิงทุกประการ มันเป็นความน่าพิศวงเป็นอันมาก นารีผล จะพบได้ในป่าหิมพานต์เท่านั้น ซึ่งภายในป่าหิมพานต์ ที่กล่าวถึงนี้ ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ ณ.ใด ไกลขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่จารึกบันทึกเอาไว้ก็คือ ผู้ที่จะก้าวล่วงเข้าไปยังป่าหิมพานต์ได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีบารมีสูงมาก”

(จากหนังสือที่เขียนออกมาสนับสนุนเรื่องของนารีผล เรียบเรียงโดย ก.ไกลกังวล)

       นารีผล สิ่งมงคลศักดิ์สิทธิ์คู่บุญวัดป่าพรหมยาน ที่ท่านหลวงพ่อรุจิชัย ฐิติญาโณ เจ้าอาวาสองค์แรก ผู้บุกเบิกสร้างวัดป่าพรหมยานแห่งนี้ ได้รับมาโดยอัศจรรย์ ตามคำบอกเล่ากล่าวไว้ว่า นารีผลองค์นี้ หลังจากได้มาอยู่ที่วัดป่าพรหมยานแล้ว หลวงพ่อก็สามารถสร้างวัดจนสำเร็จ ใหญ่โต มาได้จนถึงทุกวันนี้

       เมื่อครั้งสมัยที่พระปลัดเกียรติณรงค์ กิตฺติวฑฺฒโน (พระอาจารย์กบ) เจ้าอาวาสวัดป่าพรหมยาน รูปปัจจุบัน ได้เข้ามารับหน้าที่ดูแล บูรณปฏิสงขรณ์ วัดแห่งนี้เป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๙ ได้พบว่า นารีผล มีขนาดเล็ก สูงประมาณความยาวของนิ้วมือ แต่เมื่อเวลาผ่านมาประมาณอีก ๒-๓ สัปดาห์ ได้เข้าไปดูนารีผลอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่าได้ขยายขนาดขึ้นเป็นเท่าตัวเป็นที่น่าอัศจรรย์ โดยมีความสูงประมาณหนึ่งฝ่ามือ และคงขนาดเท่านี้มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา วัดได้ขาดช่วงหายไปจากการบำเพ็ญกุศล อุทิศบุญให้แก่พรหมเทพเทวดาผู้ปกปักรักษาวัด ต่อมาเมื่อพระปลัดเกียรติณรงค์ฯ พร้อมคณะได้เข้ามาประจำอยู่ที่วัดป่าพรหมยานแล้ว ก็ได้มีการสวดมนต์ ทำวัตร เช้า-เย็นทุกวัน และจัดให้มีการอบรมปฏิบัติธรรม บำเพ็ญภาวนาเป็นอยู่ประจำ มีคณะศรัทธาเข้ามาทำบุญบำเพ็ญกุศล และมีการตั้งจิตอุทิศส่วนกุศลให้แก่พรหมเทพเทวดาผู้ปกปักรักษาวัด (รวมถึงท่านแม่นารีผลด้วย) ทุก ๆ วัน ขนาดของนารีผลจึงขยายใหญ่ขึ้นตามกำลังบุญของเทวดาที่ปกปักรักษา โดยมีขนาดประมาณเท่ากับเมื่อครั้งที่หลวงพ่อรุจิชัยฯ ยังมีชีวิตอยู่ (ตามคำบอกเล่าของผู้ที่เคยมาเยี่ยมชมนารีผลที่วัดในอดีต นารีผลเดิมนั้นมีขนาดใหญ่ แต่ได้หดเล็กลงไปมากในช่วงระยะเวลาหลายปี